ในยุคที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและคมนาคมอย่างรวดเร็วถึงขีดสุด อีกมุมหนึ่งที่ถือเป็นการเข้าสู่ยุคอนาคตอย่างแท้จริง นั่นก็คือ หุ่นยนต์ หรือ Robot
หมวดหมู่ : Product , 
Industrial Robot
ในยุคที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและคมนาคมอย่างรวดเร็วถึงขีดสุด อีกมุมหนึ่งที่ถือเป็นการเข้าสู่ยุคอนาคตอย่างแท้จริง นั่นก็คือ หุ่นยนต์ หรือ Robot ซึ่งหุ่นยนต์เป็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนให้การใช้ชีวิตของผู้คนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากการเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์โดยที่มนุษย์อาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ที่ใช้ในงานบ้าน หุ่นยนต์ที่ช่วยขนย้ายสิ่งของ ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่ใช้ในที่ทำงาน และ หุ่น ยนต์ อุตสาหกรรม ด้วยข้อดีของหุ่น ยนต์ อุตสาหกรรม ที่สามารถเปลี่ยนความเสียเปรียบต่าง ๆ ให้กลายเป็นข้อได้เปรียบได้อย่างน่าทึ่ง
12 ข้อดี ของหุ่นยนต์ในที่ทำงาน ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม
1. ทำงานได้เร็วกว่า
หุ่นยนต์ตอบโจทย์การทำงานที่เร็วกว่าเดิมได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากเป็นการสั่งงานของโปรแกรมหุ่นยนต์ที่ให้ทำงานตามคำสั่งเท่านั้นและทำความเร็วในเวลาที่กำหนด จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับการทำงานอย่างอื่นที่ไม่จำเป็น เช่น การพูดคุย การพัก การตรวจดูงาน หรือ การกระทำบางอย่างที่มนุษย์ทำ เป็นต้น
2. ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เหน็ดเหนื่อย
หุ่นยนต์สามารถทำงานตามคำสั่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องมีเวลาพักผ่อน กินข้าว เข้านอน หรือ วันหยุด ทำให้มีกำลังการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง สามารถผลิตสินค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มผลผลิตจากการผลิตที่มากขึ้นในเวลาที่ลดลงได้อีกด้วย ถือเป็นประโยชน์ที่สร้างความได้เปรียบและโอกาสในการผลิตให้กับอุตสาหกรรมได้มากเลยทีเดียว
3. สามารถเลือกโปรแกรมหุ่นยนต์ที่ตอบโจทย์การทำงานได้
โปรแกรมหุ่นยนต์มีความยืดหยุ่นในการทำงานมาก เพราะสามารถตั้งค่า ปรับเปลี่ยน และเขียนคำสั่งการทำงานใหม่ได้ตลอดเวลาตามที่ผู้ใช้งานต้องการ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้โปรแกรมที่เหมาะกับงานได้อย่างอิสระ รวมถึงการตั้งค่าโปรแกรมหุ่นยนต์ให้ทำงานเฉพาะอย่าง ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
4. ทำงานที่เสี่ยงอันตรายได้
เนื่องจากหุ่นยนต์มักถูกสร้างด้วยวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ทำให้สามารถทำงานที่เสี่ยงอันตรายที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ เช่น งานที่ต้องใช้อุณหภูมิสูง อย่าง การหลอมโลหะ การขึ้นรูป การอบชุบ หรือ งานเชื่อมใต้น้ำลึกที่ต้องทนกับความดันสูงที่อาจเกิดอันตรายต่อมนุษย์ได้ รวมถึงสถานที่ที่มีโรคระบาดด้วย
5. ทำงานได้อย่างแม่นยำ
เนื่องจากหุ่นยนต์จะทำงานตามคำสั่งที่ได้รับมาเท่านั้น ไม่มีการทำงานนอกเหนือคำสั่งที่ถูกป้อนลงในโปรแกรม จึงทำให้มีความแม่นยำสูงและตรงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งความแม่นยำจะช่วยลดความผิดพลาดในการทำงานได้เป็นอย่างดี รวมถึงลดความเสียหายและลดต้นทุนที่เกิดจากความผิดพลาดในไลน์การผลิตด้วย
6. มีข้อผิดพลาดน้อยหรือไม่มีเลย
ด้วยความที่หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้มีข้อผิดพลาดในการทำงานน้อยหรือไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการทำงานเลย ตรงจุดนี้ช่วยให้การผลิตสามารถลดขั้นตอนในการทำงานออกไปได้หลายขั้นตอน เช่น ขั้นตอนการตรวจสอบ ขั้นตอนการคัดแยกสินค้าที่ไม่ตรงตามคุณภาพที่กำหนดไว้ จนถึงขั้นตอนในการจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการผลิตที่ผิดพลาด ซึ่งช่วยลดทั้งเวลาและเงินทุนได้เป็นอย่างดี
7. ประหยัดเวลา
ไม่ว่าผู้ใช้จะนำหุ่นยนต์ไปใช้ในงานใด ก็จะตั้งเป้าหมายให้มีการใช้เวลาที่น้อยลง แต่ได้ผลผลิตหรือปริมาณงานที่มากขึ้นกว่าเดิมเสมอ ซึ่งหุ่นยนต์ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี หุ่นยนต์สามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการตั้งค่าของผู้ใช้งาน
8. ลดต้นทุนด้านค่าแรงงาน
ต้นทุนด้านแรงงานและสวัสดิการต่าง ๆ ที่เป็นต้นทุนสำคัญในอุตสาหกรรม เมื่อมีหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในการทำงานแล้ว งานบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานอีกต่อไปหรือหากใช้ก็สามารถลดจำนวนแรงงานให้น้อยลงกว่าเดิมได้ การลดต้นทุนด้านค่าแรงงานจะช่วยให้อุตสาหกรรมมีผลประกอบการที่ดีขึ้นและลดราคาสินค้าเพื่อเข้าสู่การแข่งขันที่จริงจังได้อีกด้วย
9. ทำงานได้ทั้งแบบวนลูปและตามสถานการณ์
หุ่นยนต์มีความยืดหยุ่นในการตั้งค่ามาก จึงสามารถตั้งค่าให้ทำงานได้ทั้งแบบวนลูปและตามสถานการณ์ ทำให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้หลากหลายที่ทำงานและอุตสาหกรรมมาก เช่น ทำงานวนลูปเพื่อสร้างชิ้นงานหรือทำงานที่มีลักษณะซ้ำ ๆ กัน หรือทำงานตามสถานการณ์ เช่น การใช้เซนเซอร์ในการตรวจจับอุณหภูมิ สิ่งกีดขวาง น้ำหนัก และสิ่งรบกวนอื่น ๆ เป็นต้น
10. ใช้เวลาน้อยในการติดตั้ง
หุ่นยนต์ใช้เวลาในการติดตั้งน้อยมาก เพียงหนึ่งวันหรือครึ่งวันก็สามารถติดตั้งเสร็จและใช้งานหุ่นยนต์ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการติดตั้งนานเป็นเดือนหรือเป็นปี ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าติดตั้งมากนัก และไม่จำเป็นต้องรบกวนไลน์การผลิตอื่นด้วย
11. ใช้พื้นที่ในการทำงานน้อยลง
หุ่นยนต์สามารถทำงานได้หลากหลาย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการทำงานได้ เช่น หากผู้ใช้ต้องการผลิตชิ้นงาน 10,000 ชิ้นต่อวัน เดิมอาจต้องใช้คนมากถึง 50 คนและต้องใช้พื้นที่ใหญ่เพื่อให้ 50 คนได้อยู่ทำงาน แต่ถ้าใช้หุ่นยนต์อาจใช้แค่เพียง 2 ตัวเท่านั้นเพื่อให้ได้ชิ้นงานในปริมาณและเวลาเท่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่า หุ่นยนต์ 2 ตัวใช้พื้นที่น้อยกว่า คน 50 คน ทำให้เหลือพื้นที่ใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้
12. ยกระดับไลน์การผลิต
ไลน์การผลิตที่มีเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในที่ทำงาน นอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านค่าแรงงาน เวลา ความผิดพลาด ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และพื้นที่ใช้สอยแล้ว ยังเพิ่มมูลค่าและยกระดับไลน์การผลิตนั้น ๆ ให้มีมาตรฐานสูงขึ้นได้ด้วย ซึ่งทำให้โรงงานของผู้ใช้หุ่นยนต์มีความน่าเชื่อมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับได้อย่างง่ายดาย